ความดันโลหิต เสี่ยงไตเรื้อรัง ร้ายแรงมากหากไม่รีบดูแล

ไตเรื้อรัง

“โรคความดันโลหิตสูง” เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย เมื่อก่อนอาจจะเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุมาก แต่ปัจจุบันจากสภาวะสังคมต่าง ๆ ทำให้คนเป็นโรคนี้อายุน้อยลงด้วย ๆ ด้วยปัจจัยการใช้ชีวิตที่ละเลยการดูแลสุขภาพ ซึ่งโรคความดันโลหิตเป็นโรคที่เปิดประตูสู่โรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ทั้งโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด รวมถึงโรคไตเรื้อรังด้วย ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมอาจทำให้ผู้ป่วยต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ร้ายแรงถึงขั้นที่ไตอาจทำงานไม่ดีจนต้องฟอกไตตลอดชีวิตหรือต้องปลูกถ่ายไตในที่สุด รีบดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคไตเรื้อรัง ทำอย่างไรได้บ้างมาดูกันครับ

 

จะเป็นอย่างไรเมื่อความดันโลหิตไม่สมดุล?

ความดันโลหิต หรือ โรคความดันโลหิตสูง คือภาวะที่ความดันเลือดในหลอดเลือดแดงสูงกว่าค่าปกติ ซึ่งสามารถเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเครียด การทานอาหารที่มีโซเดียมสูง การขาดการออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งพันธุกรรม เมื่อความดันโลหิตสูงเรื้อรังไม่ได้รับการควบคุมและดูแลอย่างถูกต้อง จะทำให้เกิดความเสียหายต่อหลอดเลือดทั่วร่างกาย รวมถึงหลอดเลือดในไตซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยกรองของเสียออกจากร่างกายด้วย

 

ความดันโลหิตสูงกับโรคไตเรื้อรัง

เมื่อความดันโลหิตสูงเรื้อรังไม่ได้รับการควบคุม อาจส่งผลเสียต่อหลอดเลือดในไต ทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อล้างสารพิษและของเสียจากเลือด การที่ไตต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่องอาจนำไปสู่การเสื่อมสภาพของเนื้อไตและการลดลงของการทำงานของไตลง โดยโรคไตเรื้อรังเป็นภาวะที่การทำงานของไตค่อย ๆ เสื่อมสภาพไปเรื่อย ๆ ซึ่งสามารถพัฒนาไปสู่การล้มเหลวของไต หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การรักษาโรคไตเรื้อรังในระยะที่ยังไม่ลุกลามมากมักจะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ไตเสื่อมสภาพลงได้เร็วเกินไปได้

 

ความดันโลหิตสูงสู่โรคไตเรื้อรัง

เมื่อความดันโลหิตสูง กระแสเลือดที่ถูกส่งไปยังไตจะทำให้หลอดเลือดในไตถูกทำลายมากขึ้น และไตต้องทำงานหนักขึ้นในการกรองของเสียจากเลือด ทำให้เกิดการสะสมของสารพิษและของเสียในเลือดเพิ่มพูนมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมา นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของเนื้อไต เสื่อมสภาพและขาดประสิทธิภาพในการทำงาน จนอาจนำไปสู่ภาวะไตวาย ซึ่งต้องผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือเสี่ยงเสียชีวิตได้เลยครับ

 

การดูแลและป้องกัน

1. ควบคุมความดันโลหิตให้ปกติ ไม่ควรเกิน 120/80 mmHg สามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลอดเลือดในไตได้ การรับประทานยาและการปรับพฤติกรรมชีวิต เช่น การลดการทานโซเดียม, การลดน้ำหนัก, และการออกกำลังกายสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้

2. ตรวจเช็กการทำงานของไต ผ่านการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อหาค่าความผิดปกติของไตในเลือดและการตรวจการทำงานของไตเป็นประจำจะช่วยให้สามารถตรวจพบปัญหาเกี่ยวกับไตได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และทำให้สามารถรักษาได้ทันเวลา

3. คุมอาหารและน้ำหนัก การทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ และโปรตีนจากพืช รวมถึงการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงและเค็ม สามารถช่วยรักษาความดันโลหิตและป้องกันโรคไตได้ รวมถึงป้องกันไม่ให้อ้วนเกินไป เพราะภาวะอ้วนก็เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตได้เช่นเดียวกัน

4. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพราะ 2 พฤติกรรมนี้ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น นอกจากนี้จะเป็นสิ่งเร้าให้เกิดโรคอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคตับ และโรคมะเร็ง

5. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็วหรือการว่ายน้ำ จะช่วยควบคุมความดันโลหิตให้มีความสมดุลได้ นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนากล้ามเนื้อต่าง ๆ ทั้งกล้ามเนื้อหลอดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจ ฯลฯ

6. การรับประทานสารสกัดที่ช่วยบำรุงความดันโลหิตและการทำงานของหลอดเลือด เช่น สารสกัดจากฮอร์ธอร์น มีส่วนช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้หลอดเลือดสามารถทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้อย่างสมดุล ลดความเสี่ยงความดันโลหิตสูง ทั้งยังช่วยให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้นด้วย สำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตมีการศึกษาว่าการรับประทานสารสกัดจากฮอร์ธอร์นมีนัยสำคัญในการช่วยลดความดันโลหิต และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถออกกำลังกายได้นานขึ้นด้วย

 

โรคความดันโลหิตถือเป็นโรคที่ผู้คนละเลยในการดูแลสุขภาพมากที่สุดโรคหนึ่ง เพราะอาการของโรคไม่ร้ายแรง แต่เป็นโรคเรื้อรังที่หากปล่อยไว้จะยิ่งสร้างความเสี่ยงให้กับสุขภาพโดยรวม เพราะสามารถเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย เมื่อรู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยงหรือมีภาวะความดันโลหิตสูงต้องรีบดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ สำหรับใครที่สนใจสารสกัดจากฮอร์ธอร์นเพื่อดูแลสุขภาพ สามารถปรึกษาได้ฟรีทาง Inbox m.me/yourofficialthailand หรือ Line : @Yourthailand

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP