คนจะป่วย “มะเร็งปอด”​ มากขึ้น สำรวจสาเหตุ เร่งป้องกัน

มะเร็งปอด

แม้มะเร็งป่วยจะสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่ปัจจุบันมีปัจจัยหลายอย่างที่กระตุ้นให้เกิดโรคร้ายนี้ได้ และทำให้โรคนี้ดูใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด จากข่าวสารที่ออกมาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เรามาดูกันว่าทำไมผู้คนจะเป็นมะเร็งปอดมากยิ่งขึ้น และวิธีป้องกันสามารถทำได้ด้วยวิธีไหนบ้าง

 

สถิติโรคมะเร็งในไทยที่น่าเป็นห่วง

รายงานจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติเปิดเผยสถิติที่น่าเป็นกังวลว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดวันละกว่า 40 คน และมีผู้ป่วยใหม่ประมาณ 140,000 คน เสียชีวิตประมาณ 83,000 คน/ปี และโรคมะเร็งปอดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยเป็นอันดับที่ 2 รองจากมะเร็งตับและท่อน้ำดีอีกด้วย ที่สำคัญโรคนี้พบในคนที่มีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นว่าใครก็สามารถเป็นโรคมะเร็งปอดได้

 

สาเหตุหลักของโรคมะเร็งปอด

การสูบบุหรี่ยังเป็นสาเหตุที่เสี่ยงที่สุดของการเกิดโรคมะเร็งปอด เพราะควันบุหรี่มีสารพิษกว่าพันชนิด และมีสารพิษที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดโดยตรงอีกกว่า 60 ชีวิต หากสูบบุหรี่มากกว่า 25 มวนต่อวัน เสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งปอดมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 25 เท่า นอกจากนี้ผู้ที่ติดบุหรี่มาเป็นระยะเวลายาวนานก็ยิ่งเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งปอด รวมถึงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่น ๆ อีกมากมาย

 

ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด

– โรคที่เกี่ยวกับปอด เช่น โรคถุงลมโป่งพอง โรคพังผืดที่ปอด

– เคยได้รับรังสี หรือ ผ่านการสะสมรังสีเป็นเวลานาน

– ได้รับสารเคมีมาอย่างยาวนาน เช่น การประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม โรงกลั่น สถานที่ก่อสร้าง สูดควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรือสารเคมีบางชนิด เช่น แร่เรดอน แร่ใยหิน เบนซีน ไฮโดรคาร์บอน

– การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น PM2.5 อย่างสม่ำเสมอ

– การดูแลสุขภาพ เรื่องอาหารและการออกกำลังกาย

 

การป้องกันตัวเองให้ห่างจากโรคมะเร็งปอด

นอกจากปัจจัยข้างต้นที่เราสามารถหลีกเลี่ยงและป้องกันตัวเองได้แล้ว แต่หากการแก้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมยังไม่เป็นรูปธรรม ปัญหาการโรคมะเร็งปอดก็ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพของคนไทยในอนาคตได้ ฉะนั้นการดูแลตัวเองจากปัจจัยภายในจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก

1. ควรเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอย่างสม่ำเสมอ แนะนำให้ทุกคน ทุกวัย รับประทานสารสกัดจากเบต้ากลูแคนที่สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเข้าไปทำงานกับเซลล์เม็ดเลือดขาวได้โดยตรง

– กระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาวขนาดใหญ่

– กระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาว นิวโตรฟิล

– กระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกัน เอ็น เค เซลล์ (Natural Killer Cell)

เซลล์ภูมิคุ้มกันทั้ง 3 ประเภท ถือว่ามีหน้าที่สำคัญมาก ๆ ต่อร่างกาย โดยจะทำการค้นหา และทำลายเชื้อโรคแปลกปลอม ให้กับร่างกายของมนุษย์ได้รวดเร็ว แม่นยำ พร้อมกันส่งสัญญาณเตือนภัยไปยังเซลล์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เซลล์ที่มีการแบ่งตัวผิดปกติที่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็งก็สามารถกำจัดและทำลายได้ก่อนอีกด้วย ถ้าเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

2. ดูแลเรื่องอาหารที่รับประทาน ไม่ควรทานอาหารที่เสี่ยงต่อสุขภาพ เช่น ของทอดเกรียม ของย่างไหม้ ควรเลี่ยงอาหารที่ขายกลางแจ้งในช่วงที่มีมลพิษทางอากาศ PM2.5 รุนแรง เพราะอาจมีสารตกค้างอยู่ในอาหารได้ เน้นอาหารที่มีโภชนาการที่ร่างกายต้องการ เพื่อให้ร่างกายนำไปหล่อเลี้ยงอวัยวะรวมถึงเซลล์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. พักผ่อนอย่างเพียงพอ และหมั่นออกกำลังกาย แม้ในช่วงที่ PM2.5 รุนแรง ควรงดการออกกำลังกายนอกบ้าน แต่กิจกรรมในร่มก็ยังสามารถทำได้ เพื่อให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น กระตุ้นการทำงานของหัวใจ และเผาผลาญพลังงานส่วนเกินด้วย ที่สำคัญการนอนพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพก็ช่วยในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้เหมือนกันครับ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Inbox m.me/yourofficialthailand หรือ Line : @Yourthailand

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TOP