สวัสดีปีใหม่ชาว YOUR ที่รักสุขภาพทุกคนนะครับ เป็นอีกปีที่เชื่อว่าหลายคนตั้งเป้าหมายทำสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นการต้อนรับการเริ่มต้นใหม่ แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะดูคลี่คลายลงบ้างแล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนยังคงกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโรคนี้ด้วยที่ว่ายังสามารถกลายพันธุ์และสามารถติดได้แม้จะเคยติดมาแล้วก็ตาม ฉะนั้นหนึ่งในเป้าหมายที่อยากให้ทุกคนมีคือสุขภาพดีและภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
การสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงทำได้อย่างไรบ้าง?
ภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงคือสภาวะที่สามารถต้านทานโรคได้ เรียกได้ว่าระบบภูมิคุ้มกันหรือระบบภูมิต้านทานสามารถปกป้องร่างกายของเราจากสิ่งแปลกปลอม ไม่ว่าจะเป็น แบคทีเรีย เชื้อโรค ไวรัส ปรสิต ฯลฯ เข้ามาคุกคามร่างกายของเราได้ โดยระบบภูมิคุ้มกันเป็นอีกหนึ่งระบบในร่างกายที่ซับซ้อนเพราะประกอบด้วยการทำงานของอวัยวะที่หลากหลาย ลึกระดับเซลล์และโมเลกุลเลยทีเดียว การทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราทำงานได้อย่างดีต้องอาศัยการปรับพฤติกรรมเหล่านี้
1. สุขภาพดีได้ ด้วยการรับประทานสารสกัดจากเบต้ากลูแคน
สารสกัดจากเบต้ากลูแคนนับเป็นสิ่งที่วงการวิทยาศาสตร์ให้การยอมรับว่าเป็นสารสกัดที่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด ซึ่งนับเป็นทางเลือกสำหรับผู้ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการรับประทานรูปแบบอาหารเสริม โดยเบต้ากลูแคนจะเข้าไปทำงานกับระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง โดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดขาว โดยไปกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาวขนาดใหญ่ แมคโครฟาจ (Macrophage) เซลล์ภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาว นิวโตรฟิล (Neutrophil) และกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกัน เอ็น เค เซลล์ (Natural Killer Cell) ซึ่งเป็น 3 เซลล์ที่สำคัญมาก ๆ ต่อกลไกการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน โดยจะทำการค้นหา ตรวจจับ และกำจัด สิ่งแปลกปลอม ก่อนจะเข้าสู่ร่างกายของเราได้ แน่นอนว่าการที่ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เราก็จะลดความเสี่ยงที่จะป่วยง่าย ร่างกายแข็งแรง และลดความเสี่ยงโรคร้าย อย่างมะเร็งได้ด้วย
2. การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
การนอนหลับอย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ จะสามารถฟื้นฟูเซลล์ภูมิคุ้มกันหรือที่เรียกว่า T-Cell ได้ดี โดยการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพควรจะมีช่วงหลับลึกประมาณ 1 ชั่วโมง และควรมีเวลานอนไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง หรือสำหรับบางคนอาจจะไม่ถึงขั้นต่ำ แต่เมื่อเวลาตื่นต้องรู้สึกสดชื่น ไม่ง่วงซึม กระปรี้กระเปร่า พร้อมที่จะไปทำกิจกรรม และระหว่างวันไม่เหนื่อย ไม่เพลีย รวมถึงไม่ง่วง นี่จึงจะนับว่าได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอครับ สำหรับคนที่มีอาการนอนไม่หลับนับเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำหรือตกได้ง่ายกว่าคนปกติ ต้องเร่งแก้ไขพฤติกรรมนี้ อาจจะนอนเร็วขึ้น งดเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนเหมาะกับการพักผ่อนที่สุดครับ
3. การรับประทานอาหารที่ครบโภชนาการ
อาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากนะครับสำหรับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มีอาหารหลายอย่างที่สามารถส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ดี แต่ทางที่ดีที่สุดคือการรับประทานอาหารให้ครบตามโภชนาการ หรือ ที่เรารู้จักกันดีคือครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อนั่นเอง สำหรับผู้ที่มีอายุมากอยากให้เน้นอาหารที่ไขมันและน้ำตาลน้อย ลดการรับประทานคาร์โบไฮเดรต เน้นโปรตีนที่ที่ย่อยง่าย อย่างไข่หรือธัญพืช จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายยังคงสมดุลและแข็งแรงสม่ำเสมอครับ
4. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายถือเป็นอีกทางหนึ่งที่จะสามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ เป็นการเติมออกซิเจนให้เลือด เซลล์ถูกกระตุ้นให้ทำงาน เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อร่างกายต้องทำงานหนัก ช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด กระตุ้นเซลล์กล้ามเนื้อ และกำจัดไขมันส่วนเกิน ทั้งการออกกำลังกายยังช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อและลดการติดเชื้อได้ด้วย
ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพให้มากขึ้น เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะเกิดวิกฤติสุขภาพเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ หากร่างกายเราพร้อม เชื่อว่าเราจะสามารถรับมือและห่างไกลจากทุก ๆ โรคได้ครับ สวัสดีปีใหม่ครับ