การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยการใส่ใจอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงอากาศเย็นเพราะผู้สูงอายุมักจะได้รับผลกระทบต่อปัจจัยแวดล้อมได้ง่ายกว่าคนทั่วไป นอกจากจะดูแลเรื่องเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นแล้ว การดูแลในส่วนของโภชนาการที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการเพิ่มโปรตีนให้เป็นสารอาหารสำคัญที่มีบทบาทในการช่วยเสริมสร้างสุขภาพของผู้สูงอายุในช่วงที่อากาศเย็น มาดูกันว่าโปรตีนมีบทบาทอย่างไรในการช่วยดูแลผู้สูงอายุในฤดูหนาวได้ดีขึ้นอย่างไรบ้าง
1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ในช่วงอากาศหนาวร่างกายของผู้สูงอายุอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียมากขึ้นเพราะระบบภูมิคุ้มกันของผู้สูงอายุอ่อนแอลงตามวัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการรับประทานโปรตีนช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันโดยการสร้างแอนติบอดีและเซลล์เม็ดเลือดขาวที่จำเป็นในการต่อสู้กับโรคต่าง ๆ ช่วยให้ร่างกายมีเกราะป้องกันที่แข็งแรงยิ่งขึ้น การรับประทานโปรตีนจากพืชยังดีต่อระบบย่อยอาหารของผู้สูงอายุด้วย เพราะย่อยง่ายกว่าโปรตีนจากสัตว์
2. รักษามวลกล้ามเนื้อ
อากาศหนาวอาจทำให้ผู้สูงอายุเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้ โปรตีนจากพืชสามารถช่วยคงมวลกล้ามเนื้อไว้ได้ดี ทำให้ผู้สูงอายุสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นคง ลดความเสี่ยงต่อการล้มและบาดเจ็บ โดยแหล่งโปรตีนที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ เช่น โปรตีนจากพืชทุกชนิด แคลอรีต่ำ ช่วยให้อิ่มนาน ผู้สูงอายุอารมณ์ดีไม่หงุดหงิดง่ายด้วย
3. ช่วยรักษาความอบอุ่นของร่างกาย
การเผาผลาญโปรตีนในร่างกายช่วยสร้างพลังงานและความร้อน ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในระดับปกติในช่วงอากาศหนาว ผู้สูงอายุควรบริโภคโปรตีนอย่าเพียงพอ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของร่างกาย ผู้สูงอายุมีความต้องการโปรตีนประมาณ 1 กรัม/น้ำหนักตัว (กิโลกรัม)/วัน เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ป้องกันภาวะกล้ามเนื้อลีบ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
4. ส่งเสริมการฟื้นฟูร่างกาย
ในกรณีที่ผู้สูงอายุมีอาการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ โปรตีนมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ การบริโภคโปรตีนอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ทั้งโปรตีนจากพืชยังช่วยลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในระยะยาวได้ด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคคอเลสเตอรอลสูง และโรคมะเร็ง เพราะในโปรตีนจากพืชมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย
นอกจากนี้การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในช่วงหน้าหนาว ต้องเอาใจใส่อย่างมาก เพราะเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ง่ายอย่างผู้สูงอายุที่ติดเตียงอาจจะเสียงติดเชื้อได้มากขึ้นจากแผลกดทับ สังเกตอาการหงุดหงิด หรือชอบเกาจนเป็นแผล แผลเล็ก ๆ ก็เสี่ยงที่ผู้สูงอายุจะป่วยได้จากการที่เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายจากบาดแผล นอกจากนี้ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดอุดตัน ต้องระมัดระวังอาการแทรกซ้อน ให้เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุก ทานร้อน เพื่อลดการปนเปื้อนเชื้อโรคในอาหารด้วย
สำหรับใครที่ต้องการโปรตีนจากพืชเพื่อดูแลสุขภาพผู้สูงอายุก็สามารถปรึกษาได้ฟรีทาง Inbox m.me/yourofficialthailand หรือ Line : @Yourthailand