ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการบริโภคโปรตีนจากพืชได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งในกลุ่มคนรักสุขภาพและคนที่อยากเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ แต่ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโปรตีนจากพืชอยู่มาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งที่อาจลังเลในการเลือกรับประทานอาหาร วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโปรตีนจากพืชและเหตุผลว่าทำไมโปรตีนจากพืชจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยมะเร็งได้
ความเชื่อผิด ๆ: โปรตีนจากพืชมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ ไม่สามารถทดแทนโปรตีนจากสัตว์ได้
ความจริง: โปรตีนจากพืชสามารถให้กรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนได้ หากรับประทานอย่างหลากหลาย เช่น ถั่วลันเตา เมล็ดฟักทอง ข้าวกล้อง นอกจากนี้โปรตีนจากพืชยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ไฟเบอร์ และสารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
ความเชื่อผิด ๆ: โปรตีนจากพืชทำให้ร่างกายอ่อนแอ และไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
ความจริง: โปรตีนจากพืชมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูร่างกายของผู้ป่วยมะเร็ง โดยเฉพาะการช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งแตกต่างจากโปรตีนที่ได้จากสัตว์บางชนิดที่อาจกระตุ้นการอักเสบ เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน เนื้อสัตว์แปรรูป การบริโภคโปรตีนจากพืชที่มีคุณภาพจึงสามารถช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานที่เพียงพอ และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความเชื่อผิด ๆ: ผลิตภัณฑ์จากถั่วกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
ความจริง: งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าสารในถั่ว เช่น ถั่วลันเตาไม่มีผลกระตุ้นการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ในถั่วลันเตามีสาร โพลีฟีนอล, ฟลาโวนอยด์, และแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์จากอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีซาโปนินที่พบในถั่วลันเตาและพืชตระกูลถั่วชนิดอื่น งานวิจัยพบว่า ซาโปนินสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและกระตุ้นการทำลายเซลล์มะเร็งได้ ผู้ป่วยมะเร็งสามารถบริโภคถั่วได้โดยสามารถปรึกษาแพทย์ที่เข้ารับการรักษาก่อนรับประทาน
โปรตีนจากพืชมีประโยชน์อย่างไรสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง?
1. ลดการอักเสบในร่างกาย
ผู้ป่วยมะเร็งมักเผชิญกับภาวะอักเสบเรื้อรัง ซึ่งอาจกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งเติบโตเร็วขึ้น โปรตีนจากพืช เช่น ถั่วลันเตา เมล็ดฟักทอง และข้าวกล้อง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
2. ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
โปรตีนเป็นหนึ่งในสารสำคัญในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดขาวที่จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย นอกจากนี้สารในโปรตีนจากพืช เช่น สังกะสีและธาตุเหล็กก็มีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย
3. ลดผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด
ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดมักมีอาการคลื่นไส้ อ่อนเพลีย และสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ การบริโภคโปรตีนจากพืชช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงของภาวะขาดสารอาหาร และช่วยให้มีพลังงานเพียงพอ
4. ปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย
ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก ฮอร์โมนเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรนอาจมีบทบาทในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง การบริโภคอาหารจากพืช อาจมีส่วนช่วยรักษาสมดุลฮอร์โมนและลดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นซ้ำได้ ทั้งยังลดปัจจัยในการเสียสมดุลฮอร์โมนอีกด้วย
เคล็ดลับการบริโภคโปรตีนจากพืชสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
– รับประทานโปรตีนจากพืชให้เพียงพอ โดยเฉลี่ยผู้ป่วยมะเร็งควรได้รับโปรตีนประมาณ 1.2–1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน
– เน้นอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักและผลไม้หลากสี เพื่อช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
– หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและน้ำตาลสูง อาหารเหล่านี้อาจเพิ่มการอักเสบในร่างกายและลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน
– รับประทานอาหารให้สมดุล ควบคู่กับไขมันดีจากพืช เช่น อะโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันปลา และถั่วต่าง ๆ
การรักษามะเร็งต้องอาศัยทั้งพลังใจและพลังกาย การทำให้ร่างกายแข็งแรงเป็นสิ่งที่สำคัญในการต่อสู้กับโรค โดยการเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ให้พลังงานและโภชนาการที่ร่างกายต้องการอย่างครบถ้วน เพื่อให้สามารถฟื้นฟูร่างกายหลังจากได้รับการรักษาได้ เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมีอ่อนแอเมื่อต้องได้รับเคมีบำบัดหรือการรักษาด้วยการผ่าตัด การได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอจึงช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซมได้ดีขึ้น สำหรับใครที่สนใจโปรตีนจากพืชสำหรับการดูแลสุขภาพและดูแลผู้ป่วยมะเร็ง สามารถปรึกษาได้ทาง Inbox m.me/yourofficialthailand หรือ Line : @Yourthailand